ให้รายงานสายตรง

ถ้าหากอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ก่อให้เกิดการทุจริตฟอนเฟะ

....ถ้าอย่างนั้น....

การแข่งขันโดยไม่หยุดหย่อน

จะก่อให้เกิดความก้าวหน้าไม่หยุดนิ่ง

หนังสือดีที่อยากให้ท่านได้อ่าน

"โคตรโกง"

ตำรับโกงที่ไม่อยากให้ท่านถูกโกง

โคตรโกง

เราไม่ได้สอนให้คุณโกง

แต่แนะนำให้คุณเห็นซื้งถึงเลห์โกง

❤️ ให้รายงานสายตรง ❤️

เสี่ยวหวังพึ่งเข้าบ้าน ภรรยาก็ซักถามว่า

"ได้ยินว่าผู้จัดการของคุณจะย้ายถิ่นฐาน ทำไมคุณไม่บอกกับฉัน?"

"บอกขอบคุณทำไม? ยังไม่ถึงรอบผมสักหน่อย" เสี่ยวหวังขว้างกระเป๋าเอกสารลงบนโซฟา

"ผู้จัดการลาออก คุณเป็นผู้ช่วยจะได้เลื่อนตำแหน่ง"

"อย่าฝันไปหน่อยเลย" เสี่ยวหวังโกรธเคืองกว่าเดิม "คุณก็รู้ว่าพวกเรามีผู้ช่วย 2 คน ผู้ช่วยเจียงยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้จัดการใหญ่"

"เขาไม่ใช่มีลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่ง เป็นผู้จัดการฝ่ายธุรกิจแล้วหรือ?"

"ใช่สิ ถ้าเลื่อนอีกคนหนึ่งขึ้นเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต ไม่ใช่ดีกว่าหรือ?" เสี่ยวหวังสะบัดหน้า "ผมถามคุณถ้าคุณเป็นผู้จัดการ คุณจะเลื่อนใครขึ้นมา?"

"เลื่อนคุณ" ภรรยาของเขาพูดขึงขัง "เลื่อนคุณขึ้นมาแน่ ถ้าไม่เชื่อลองพนันดู"

เช้าวันนี้ เสี่ยวหวังถูกเรียกเข้าห้องผู้จัดการใหญ่ เมื่อเห็นรอยยิ้มเปื้อนทั่วใบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งเสี่ยวหวังรู้ว่าเป็นลางบอกเหตุว่าเตรียมปลอบขวัญเขาจริงดังคาด ผู้จัดการใหญ่พูดขึ้น

"ผู้ช่วยหวัง คุณก็รู้ว่าผู้ช่วยเจียงเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม เขาอยากได้ตำแหน่งผู้จัดการ เมื่อ 2 วันก่อนน้าสาวผมยังออกหน้า พี่ชายเขาก็สนับสนุนอย่างแข่งขัน"

"ผมทราบ เขาเป็นบุคคลเหมาะสมที่สุด" เสี่ยวหวังผงกหัว

"ดีมาก คุณรู้จักถ่อมตัว" ผู้จัดการใหญ่เดินอ้อมโต๊ะทำงานมาตบไหล่เสี่ยวหวัง "ผมตัดสินใจเลื่อนคุณเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต"

เสี่ยวหวังตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูของตัวเอง

"ผมรู้ว่าคุณขยันเป็นพิเศษ ไม่เลื่อนคนขยันจะเลื่อนใคร?" ผู้จัดการใหญ่พูดต่อ "ถึงแม้คุณไม่มีคนหนุนหลัง แต่นับแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะหนุนหลังคุณ คุณไม่ต้องห่วงว่าผู้จัดการเจียงเป็นลูกพี่ลูกน้องผม ฝ่ายธุรกิจมีอะไรไม่ชอบมาพากล ขอให้รายงานผม ผมจะสนับสนุนคุณ

☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️

การเลื่อนตำแหน่งของเสี่ยวหวัง ผิดความคาดหมายของคนทั้งบริษัทได้ยินว่าผู้จัดการฝ่ายธุรกิจโกรธจนหน้าเขียว ผู้ช่วยเจียงซึ่งเคยมีฐานะเท่ากับเสี่ยวหวัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีข่าวว่าเตรียมหางานใหม่แล้ว

แต่ในสายตาของพนักงานทั่วไปผู้จัดการใหญ่กลายเป็นบุคคลยิ่งใหญ่รู้จักเลือกใช้คน ถืองานส่วนรวมอยู่เหนือความสัมพันธ์ส่วนตัว

แต่ว่าระหว่างฝ่ายธุรกิจกับฝ่ายผลิต เกิดการปีนเกลียวอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ายผลิตออกของช้า หรือว่ามีปัญหาเล็กน้อย ผู้จัดการเจียงจะฟ้องขึ้นไปฝ่ายธุรกิจพอได้รับออเดอร์ ถ้าหากชักช้า เสี่ยวหวังก็จะฟ้องบ้าง ฟังมาว่าเสี่ยวหวังจับผิดฝ่ายธุรกิจได้ 2 เรื่อง จนผู้จัดการเจียงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ลักษณะการเผชิญหน้าอย่างนี้ ไม่เป็นผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทหรือ?

แต่ก็แปลกมาก ผลประกอบการของบริษัท ไม่เพียงแต่ไม่ลดลง ตรงกันข้ามยังเพิ่มขึ้น มีพ่อค้าที่ไม่เคยติดต่อธุรกิจกันมาก่อน ยังมาติดต่อเองพอถึงสิ้นปีมีการแจกโบนัส พนักงานบริษัทเบิกบานถ้วนหน้า

คนที่หรรษายิ่งกว่าคือภรรยาของเสี่ยวหวัง เพราะว่าเธอชนะพนันโบนัสตอนปลายปีของเสี่ยวหวังเข้ากระเป๋าของภรรยาหมด

❤️ หมายเหตุ ❤️

เมื่ออ่านเรื่องนี้จบลง คุณคงนึกฉงน ในมุมมองของธุรกิจครอบครัวชาวเอเชีย สมควรสนับสนุนเครือญาติตัวเอง ทำไมผู้จัดการใหญ่คนนี้จึงเลื่อน "คนนอก" ขึ้นมาแทนที่?

แต่ถ้ามองจากอีกมุมหนึ่ง...

ผู้จัดการใหญ่เพราะถืองานส่วนรวมอยู่เหนือความสัมพันธ์ส่วนตัว มีส่วนเสริมภาพลักษณ์ของผู้นำหรือไม่?

เสี่ยวหวังในฐานะคนนอก ได้รับมอบหมายตำแหน่งสำคัญ จะขยันขันแข็งเป็นทวีคูณหรือไม่?

ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจพบว่า ญาติลูกพี่ลูกน้องไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม จะเพิ่มความตื่นตัวหรือไม่?

ฝ่ายผลิตของเสี่ยวหวัง พอเจอกับการตรวจสอบจากผู้จัดการเจียง จะควบคุมคุณภาพสินค้ากว่าเดิม ส่งมอบของตรงเวลากว่าเมื่อก่อนหรือไม่?

ผู้จัดการเจียงเห็นว่าเสี่ยวหวังคอยจ้องจับผิด จะเร่งหาลูกค้ากว่าเดิมหรือไม่?

ตรงกันข้าม ถ้าหากหน่วยงานทั้ง 2 หน่วยให้พวกเดียวกัน (หมายถึงสองพี่น้องตระกูลเจียง) ดูแลจะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

ลูกค้าไม่พอใจคุณภาพสินค้า แจ้งต่อฝ่ายธุรกิจถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อย อาจถูกปกปิดไว้ ไม่ให้ผู้จัดการใหญ่รู้

ฝ่ายผลิตรู้ดีว่า ถ้าเพิ่มกะทำงาน จะได้งานเพิ่มขึ้น แต่ไม่อยากเพิ่ม หรืออาจกระซิบฝ่ายธุรกิจอย่ารับออเดอร์ อ้างว่ารับผลิตสินค้าเต็มโควต้าแล้ว

คุณจะพบว่า บางครั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน จะทำงานสำเร็จ เวลาไม่เผชิญหน้าจะไม่สำเร็จ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ในหน่วยงานหนึ่งการเผชิญหน้าไม่ได้หมายถึงการเป็นปรปักษ์กัน หากแต่เป็นการเผชิญหน้าหันหากัน พูดให้รวบรัดคือไม่ลำเอียง

ฉะนั้นการเผชิญหน้าเพื่องานส่วนรวม ไม่สมควรผ่อนปรน การเผชิญหน้าเช่นนี้ถือเป็นการควบคุมกันและกัน และแข่งขันกันเอง

ภายใต้การควบคุม ข้อเสียหายต่างๆจะปรากฏขึ้นภายใต้การแข่งขัน ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️

เรื่องนี้ต้องการบอกต่อผู้ประกอบการและผู้นำว่า อย่าเห็นว่าการใช้พวกเดียวกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ใช้สอยพวกเดียวกันได้ แต่ต้องเป็นคนที่จงรักภักดีต่อคุณ และอย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของบุคคลระดับล่าง อยู่เหนือขีดความจงรักภักดีที่มีต่อคุณ

ตัวอย่างเช่นในเรื่องนี้ ผู้จัดการเจียงกับผู้จัดการหวัง (เสี่ยวหวัง) ล้วนแล้วแต่เป็นคนของผู้จัดการใหญ่ คนหนึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง คนหนึ่งเป็นลูกน้องที่สนับสนุนขึ้นมา ฉะนั้นทั้งสองคนต่างจงรักภักดีต่อผู้จัดการใหญ่ ทำงานอย่างเต็มสติกำลัง

ตรงกันข้าม ถ้าหากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้จัดการทั้งสอง อยู่เหนือขีดความรู้สึกที่มีต่องานส่วนรวมก็ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ดี

ไม่ว่าด้านการเมือง การทหาร สังคมธุรกิจ ผู้นำที่ชาญฉลาดรู้จักสร้าง "ดุลอำนาจ" ในระหว่างลูกน้องจึงจะไม่ถูกหลอกและลดโอกาสที่ลูกน้องจะรวมหัวกันทรยศ (รวมถึงลูกน้องพร้อมใจกันลาออกจากบริษัท) เพื่อก่อร่างสร้างตัวใหม่

☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️

ถ้าหากดูจากมุมมองของลูกน้อง สมมุติว่าคุณเป็นคนไม่มีหลังฉาก ก็อย่าคิดว่าสู้คนที่มี "ความสัมพันธ์" ไม่ได้ ควรรู้ว่าการ "ไม่มีหลังฉาก" อาจเป็นจุดเด่นของคุณช่วยให้คุณค้นพบฉากหลังที่พึ่งพิง

นอกจากนี้ถ้าคุณชอบการผูกสัมพันธ์ ก็ต้องระวังในสายตาของผู้บริหาร การผูกสัมพันธ์ไม่เพียงแต่เกิดคำครหาได้โดยง่าย ซ้ำยังทุจริตได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะอย่าผูกสัมพันธ์กับคนที่สมควร "ตั้งเผชิญหน้ากัน" สมมุติว่าคุณอยู่ฝ่ายบัญชี เขาอยู่ฝ่ายการเงิน ถ้าพวกคุณไปไหนมาไหนด้วยกัน เห็นว่าหน่วยงานทั้งสองควรประสานงานกันอย่างกลมกลืน แต่คุณก็ควรรู้ว่า ในสังคมธุรกิจมีคำพูดประโยคหนึ่งว่า "บัญชีบวกการเงิน ทุจริตได้โดยง่าย" ฉะนั้นความสัมพันธ์ส่วนตัวกับงานส่วนรวมต้องแยกออกจากกัน ถ้าผสมปนเป ถือเป็นข้อห้ามอย่างมาก

☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️

แน่นอน ถ้าหากผู้นำใช้วิธีการ "ปกครองโดยตรง" ก็อาจจะเกิดผลเสีย 2 ประการ

ประการที่ 1 ถ้าเป็นลูกน้องประเภท "ช่างสอพลอ" เรื่องจุกจิกเล็กน้อยก็เข้ามาฟ้องคุณ ผู้นำคงปวดหัวหนักไม่สามารถทำให้เกิดความรับผิดชอบตามลำดับชั้นขึ้น

ประเภทที่ 2 ถ้าคุณรับฟังคำครหาเป็นประจำ ไม่ใช่ฝ่ายนี้โจมตีก็ต้องเป็นฝ่ายนั้นใส่ไฟ

ถ้าหากพบกับข้อเสีย 2 ประการนี้ คุณต้องมอบอำนาจให้ฝ่ายหนึ่ง ให้ลูกน้องรับผิดชอบตามลำดับชั้น ขณะเดียวกัน ต้องมีความสามารถในการกลั่นกรอง "ข่าวสาร" โดยเฉพาะคุณต้องฟังให้มาก พูดให้น้อย ลูกน้องจึงไม่อ้างคำพูดที่กล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจของคุณ ถือเป็นคำสั่งให้ปฏิบัติ สร้างความยุ่งยากโดยไม่จำเป็น

โปรดจำไว้ คนที่เวลาขับรถหักหลบหลุมบ่อบนถนน จะเกิดอุบัติเหตุสูง จีนยังมีคำพังเพยประโยคหนึ่งว่า "ไม่โง่เง่าไม่หูหนวก ไม่เป็นพ่อผัวบ้านไหน" ถ้าได้รับคำฟ้องร้องก็บังเกิดปฏิกิริยาทุกเรื่อง ไม่ใช่ผู้นำที่ดีที่สุด

ผู้นำต้องรู้จักทำให้ลูกน้องทำหน้าที่เต็มสติกำลัง และตั้งเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่เป็นปรปักษ์กัน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทุจริต เพราะเห็นแก่พวกพ้อง ก่อให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นศิลปะความรู้อย่างหนึ่ง

☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️ โคตรโกง ☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️☘️