การเลือกเครื่องเสียงรถยนต์ เลือกเครื่องเสียงรถยนต์อย่างไรให้มีคุณภาพ

618 สัปดาห์ ที่แล้ว - คนดู 572
  • การเลือกเครื่องเสียงรถยนต์ เลือกเครื่องเสียงรถยนต์อย่างไรให้มีคุณภาพ รูปที่ 1
รายละเอียด
การเลือกเครื่องเสียงรถยนต์ สำหรับมือใหม่ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้อเลือกติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ สำหรับ การเลือก fornt ( วิทยุ ติดรถยนต์) การที่เราจะเลือกซื้อฟร้อนซักตัว ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ฟร้อน รุ่นและยี่ห้อต่างๆก่อน ว่าท่านชอบฟังเสียงสไตล์ไหน ขอยกตัวอย่าง 3 ยี่ห้อคร่าวๆ สรุปได้ดังนี้ เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer ทำเครื่องเสียงออกมาได้โดนใจวัยรุ่น และ แนวผู้นิยมคลั่งไคล้ในเสียงเบส ได้ถูกจุด  ฟร้อน ยี่ห้อนี้ ออกแบบมาเพื่อตอบสนอง เสียงเบส ซึ่งถุกใจกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนชอบเสียงเบส ชนิดที่ว่าว่าขับได้ยินมาแต่ไกล  ส่วนจุดด้อย ของ Pioneer เรื่องเสียงกลาง หรือเสียงร้อง ยังเป็นรองยี่ห้ออื่นๆ (เฉพาะ alpine jvc pineer ) เพราะ เมื่อดูกันอย่างง่ายๆไม่ว่าจะเป็น ฟร้อน รุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ของ Pioneer ไม่ได้ใช้ ชิบ 24 bits ของ ยี่ห้อ Burr-Brown ซึ่งชิบยี้ห้อนี้ ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ และเครื่องเสียงบ้าน ต่างก็รู้กันว่าเป็นชิบที่ถอดรหัสเสียง ซีดี ได้ดีที่สุดในโลก !!! (ชิบยี้ห้อนี้ มีหลายเบอร์ และแน่นอนว่าคุณภาพเสียง ย่อมเดินไปพร้อมกับราคาเสมอ ) การเลือกซื้อ ก็แล้วแต่งบประมาณของท่าน ว่าท่านมีงบมากน้อยมากเพียงใด นอกจากรุ่นที่สูงขึ้น จะมีลูกเล่นที่เยอะขึ้น อุปกรณ์ ที่นำมาประกอบก็มีคุณภาพขึ้น  เครื่องเสียงรถยนต์ JVC ยี่ห้อนี้ เสียงกลางจะเด่นมากๆ แต่ในเรื่องเสียงเบส แล้วจะไม่แน่นกระชับเหมือนกับ pioneer ถ้าจะเล่นให้เล่น รุ่นระดับราคากลางๆ ขึ้นไป จะใช้วงจรถอดรหัส 24 bits และในรุ่นสูงขึ้นไปอีกจะใช้ ชิบ Burr-Brown  เครื่องเสียงรถยนต์ Alpine ยี่ห้อนี้ อุปกรณ์ภายใน ใช้ของดีๆมาทำทั้งนั้น และค่าการตอบสนอง ความถี่ การแยกสเตริโอ ค่าอัตราส่วนต่อสัญญาณรบกวนจะสูงกว่า ทุกๆยี่ห้อที่กล่าวมา และรุ่นสูงๆ เค้าจะใช้ ชิบ Burr-Brown รุ่น top ในการประกอบทั้งนั้น  ฟร้อนต่างๆจะมีสเปคดังต่อไปนี้  1 ค่า การแยกแชนแนล หรือ Dynamic Range เครื่องเสียงที่ดี ควรจะมีค่านี้สูง ยิ่งสูงยิ่งดี เพื่อเสียงจะดี  2 ค่า อัตราส่วนต่อสัญญาณรบกวน หรือ Signal-To-Noise ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าค่านี้สูงๆ ท่านจะฟังเสียงเพลงที่เงียบสงัด โดยไม่มีเสียงใดๆรบกวนต่างๆเลย  3. ค่า ความเพี้ยนทาง ฮาโมนิค หรือ Total Harmonic Distortion ค่านึ้ควรจะน้อยที่สุด เพราะว่า เครื่องเสียงจะมีความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ลองเปรียบเทียบค่าต่างๆ นี้กับเครื่องเสียงรถยนต์แต่ ละยี่ห้อดูครับ โดยดูจากคู่มือ ที่ให้มาในกล่อง จะเห็นได้ ว่า เครื่องเสียงรถยนต์ zulex หรือ ยี่ห้อที่มาจากจีน ไต้หวัน ค่าพวกนี้จะน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับ แบนด์ ดังๆ  ค่าพวกนี้ใช้ในการเลือก ปรีแอมป์ และ แอมป์ ได้ด้วยนะครับ ขอให้ท่านพิจารณาค่า พวกนี้ในการเลือกซื้อได้โดยไม่จำเป็นต้องฟังอันดับแรกนะครับ  ในการเลือก ปรีแอมป์ ประโยชน์ จริงๆของ ปรีแอมป์ เพื่อ ขยายเสียงให้ดังขึ้น เพื่อเข้าสู่แอมป์ นะครับเพราะ แอมป์ ต้องการสัญญาณที่อิ่ม และเพื่อ สัญญาณที่ดังจะกลบเสียงรบกวนให้น้อยลง ท่านจำเป็นต้องเลือกปรีแอมป์ ที่ดีๆที่สุด เพราะเสียงจากแหล่งกำเนิดจะต้องดี ก่อนที่จะออกสู่ภาคขยายหรือแอมป์ต่อไป  ท่านจะเห็นว่า ฟร้อน ทั่วๆไปจะ มีปรีเอ๊า แค่ 2.0 volt เท่านั้นครับ ซึ่ง แอมป์ ต้องการแรงดัน มากกว่านั้นประมาณ 7.0 volt ปรีแอมป์ จึง เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ครับ ในการเลือกก็เลือกค่าต่างๆ ที่บอกไปในการเลือกซื้อฟร้อนครับ จะสังเกตได้ว่า ปรีแพงๆ ค่าต่างๆ เหล่านี้จะสูงมาก    การเลือก แอมป์ เพื่อนำมาใช้ในรถยนต์ สังเกตในคู่มือ ที่มากับแอมป์นะครับจะบอกว่าแอมป์ ทำความที่แรงดันไฟ กี่โวลต์ และกี่วัตถ์ เช่น แอมป์ ยี้ห้อ A ระบุ 5000 Watt - 4 Ohm - THD 1.0% - 14.4V DC ราคาแค่ 8000 แอมป์ ยี้ห้อ B ระบุ 5000 Watt - 4 Ohm - THD 1.0% - 12.0 V DC ราคา 2 หมื่นกว่า  หมายความว่า แอมป์ ตัวนี้ทำงาน ได้กำลัง 5000 w ที่แรงดันไฟ 14.4 v นะครับ กับเวลาใช้งานจริง รถเราอาจไม่ได้ ถึงขนาดนั้น กำลังเวลาใช้งานจริง จะไม่ถึง 5000 w เช่น ไฟรถ อาจจะแรงดันที่ 13.8 v หรือ 12.0 v กำลังขับอาจเหลือซัก 3900 w ก็ได้  แบบนี้ท่านรู้แล้วใช่ไหมครับ ว่าทำไมแอมป์ วัต เท่ากัน แต่ทำไม ความดังมันไม่เท่ากัน เป็นเพราะอะไร?