สาเหตุของความเครียด การจัดการความเครียด จิตใต้สำนึก smart วิธีแก้เซ็ง วิธีแก้เครียด เบื่องาน

เว็บไซท์นี้เป็นแหล่งข้อมูลเรื่องแนวคิดจิตใต้สำนึกและศาสตร์ทางด้านnlp เพื่อรู้สาเหตุของความเครียด การจัดการกับความเครียด "Smart" ถ้าไม่นับความหมายจริงๆ ของมัน เราจะแปลความหมายอะไรออกมาได้บ้าง? เรื่องสนุกๆแบบนี้อาจจะต้องมีเวลาที่นั่งคุยกัน... ถ้าเพื่อนๆ ทุกคนมีเวลาพอและอยากที่จะที่เข้าใจมัน(อย่างแท้จริง)... สิ่งที่ผมพอจะแบ่งปัน ได้ก็คือ Smart เป็น "ปฐมบท" ของการเปลียนแปลงชีวิต ในเรื่องจิตใต้สำนึกของผมอย่างแท้จริง เปลี่ยนจากการติดลบและเครียด เรื่องการงาน การเงิน ความรัก และสิ่งที่เข้ามาสัมผัสในชีวิต มาเป็นที่มาของการใช้ชีวิตอย่้างเข้าใจ และเป็นผู้จัดการของชีิวิตในทุกเรื่องได้อย่างใจปราถนา เป็นที่ีมาของการจัดวางเรื่องร้ายๆ ในที่ที่มันควรจะอยู่ และไม่ออกมาสร้างความรำคาญใจกับผม เป็นที่มาของการเีรียนรู้ต่อยอด ไปสู่ เครื่องมือ Smart อื่นๆ ที่หลากหลายมากมาย และเป็นเครื่องมือที่ชีวิต "จำเป็น"ต้องใช้อย่างยิ่ง คุณค่าบางอย่างในชีวิต ธรรมชาติ "สร้างมาให้เรา" ผิดแต่เพียงแค่ว่า ธรรมชาติไม่เคยบอก "วิธีใช้" แค่นั้น ซึ่งเครื่องมือที่ชื่อ Smart จะแก้โจทย์ที่ไม่ดีความเครียดที่ฝังจิตใต้สำนึกแก่พวกเราทุกคน Smart เป็นเครื่องมือนำทางชีวิต ไม่ทำให้ชีวิตต้องเสียเวลาในการเดินทางผิดเส้นทาง แม้จะเข้าใจว่าชีวิตเป็นการเดินทางไกลก็ตาม แต่อย่างน้อยชีวิตเราก็จะไม่เดินทางวน ด้วยเครื่องมือช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพนี้ที่เป็นศาสตร์ด้าน NLP ได้รับการพิสูจน์มาแล้วทั่วโลกว่าดีจริง มันจะช่วยแก้ไขปัญหาในชีวิตของคุณได้ทั้งหมด(คุณอ่านถูกต้องแล้วครับ ผมเขียนว่า "ทั้งหมด") ไม่ว่าปัญหานั้น จะแย่แค่ไหน ยากเกินจะเยียวยา ซักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณมุ่งมั่น และยอมรับ จนกระทั่งกล้าเอ่ยปากบอกว่ามันเป็น "ปัญหาที่แท้จริง" จากนั้นมันก็ไม่ยาก เพียงแค่คิดเรื่องเครื่องมือที่จะหยิบมาแก้ปัญหาให้ได้ถูกจุด แค่นั้นเองครับ ตัวอย่างเช่น เราเห็นก๋วยเตี๋ยวน่ากิน ชามนึง แต่การลิ้มรสอาหารให้ได้ดังใจ มันก็คงต้องพึ่งพาอุปกรณ์บางสิ่งบางอย่างที่ตอบโจทย์การที่จะลิ้มรสอาหารนั้น ถ้าเราเลือกช้อนกับส้อมมากินก็ไม่มีใครว่าเราผิด แต่อรรถรสในการกินก็ย่อมแตกต่างกันไป หรือถ้าเหลือแค่ส้อมอันเดียวละรูปแบบการกินก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว และถ้าแย่จริงๆ หาอุปกรณ์ไม่ได้จริงๆ แล้วใช้มือจ้วงกินก๋วยเตี๋ยวชามนั้น คำถามคือผิดไหม คำตอบคือไม่ผิดอีกเช่นกัน แม้ผลลัพธ์มันก็คือได้กินก๋วยเตี่ยวเหมือนกันก็ตามที... แต่สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ "ประสบการณ์ที่เกิดกับชีวิตในการกินก๋วยเตี๋ยวที่่มันแตกต่างไป" แต่พอมาเป็นเรื่องของชีวิตเรา ความแตกต่าง มันกระทบแรงกว่าเรื่องของก๋วยเตี๋ยวนั่นเองครับ พอจะเริ่มเข้าใจเพิ่มขึ้นบ้างแล้วใช่้ไหมครับ เรื่องปัญหาในชีวิตที่เกิด บางทีก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา คือบางทีให้ตัวเรามอง ก็คงมองไม่เห็น... บางครั้งจะพึ่งพาคนอื่นมาช่วย บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะสื่อสารกับคนอื่นสักเท่าไหร่ ทางที่ดีที่สุด ก็คือหา"กระจก" ที่จะส่องชีวิตของคุณ และหยิบปมปัญหาที่ฝังรากลึกในจิตใต้สำนึกนั้นออกด้วยมือของคุณเองดีกว่า