https://bri-chan.com/the-best-romance-movies/

79 สัปดาห์ ที่แล้ว - คนดู 25
  • https://bri-chan.com/the-best-romance-movies/ รูปที่ 1
รายละเอียด
the best romance movies จริงอยู่ที่ Fantastic Beasts 2 ภาคนี้อุตสาหะสืบต่อการบรรลุผลของโลกมนตร์อันเป็นเรื่องราว “ก่อนหน้า” เหตุใน Harry Potter แต่ว่าอย่าลืมว่า Fantastic Beasts นั้นแหล่งกำเนิดของมันที่จริงจริงนั้นเป็น หนังสือสารานุกรมสัตว์ดีเลิศ ซึ่งเอาเข้าจริงหนังภาคแรกก็คือความอุตสาหะที่จะลากทุกๆอย่างให้กับจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งสัตว์ยอดเยี่ยมเป็นแค่เพียงตัวประกอบของเรื่องราว แนวความคิดดังที่กล่าวมาแล้วยิ่งปรากฏชัดเจนใน The Crimes of Grindelwald มากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก

โดยเหตุการณ์ใน ‘Halloween Ends’ จะเริ่มจากสถานะการณ์สะเทือนใจครั้งใหม่ในปี 2019 เมื่อคอรี คันนิงหมูแฮม (เล่นบทโดย โรฮาน แคมป์เบลล์ Rohan Campbell ) เด็กวัยรุ่นอนาคตไกลจะต้องมาเรื่องราวมัวหมองภายหลังจากเผลอทำเด็กในดูแลของตนตายในคืนวันฮาโลวีน ต่อจากนั้นหนังจะตัดไปที่สถานะการณ์เดี๋ยวนี้ที่พาให้คอรีได้มาพบกับ ลอรี สโตรด (รับบทบาทโดย เจมี ลี เคอร์ว่ากล่าวส Jamie Lee Curtis) แล้วก็อัลลิสัน (สวมบทโดย แอนดี เมติแช็ค Andi Matichak) ในเวลาที่ทั้งยังแฮดดอนฟีลด์ต่างดูเขาไม่มีความต่างจากภูติผีปีศาจ โดยไม่เคยรู้เลยว่าในคืนวันฮาโลวีนที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง ไมเคิล ไมเยอร์ส กำลังจะกลับมาสร้างตำนานเลือดสาดสะเทือนใจแฮดดอนฟีลด์อีกที

อย่างไรก็ตามแม้ว่าประเด็นนี้จะเสนอมุมมองเดิมๆตอนกระโดดมากมายไปหน่อย best romance movies แต่ว่าก็จัดว่าทำให้พวกเราได้เปิดกว้างในเรื่องของมุมมองแปลกใหม่ อย่างบนหลังคา บนอาคาร บนราวสะพาน ฯลฯ ช่วยทำให้ผู้ชมมองเห็นทิวทัศน์ แล้วก็บรรยากาศที่ไม่ค่อยได้มองเห็นมาก่อน ในบางครั้งมีการเล่นมุมกล้องถ่ายภาพวิ่งตามดาราหนังช่วยทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกเพิ่มขึ้น สองจุดนี้เป็นจุดเด่นนอกจากเรื่องดารานำ

สรุปว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น The School for Good and Evil ถือเป็นการเริ่มปลุกแฟรนไชส์หนังใหม่ได้ค่อนข้างจะถูกใจ บางทีก็อาจจะยังไม่ถึงกับขนาดเพอร์เฟ็คอะไรเท่าใด แต่ว่าก็ล่อใจความน่าดึงดูดใจก้าวหน้า แปลงเป็นหนังสถานศึกษาคาถาวัยรุ่นที่ไม่กระจอก ส่วนประกอบงานสร้างและก็งานศิลปออกจะติดอกติดใจ ปูเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างจะน่าติดตามถัดไป และก็มีปัญหาต่างๆที่น่าค้นหา เอาละเทอมใหม่กับหนังพลังเวทย์เรื่องใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว

ปัญหาประการใหญ่ของ The Crimes of Grindelwald เป็นการ “แวะเล่าตามทาง” ที่มิได้เคลื่อนเรื่องราวสำคัญๆซักเท่าไหร่ เพราะว่าเอาเข้าจริงแล้ว แนวทางหนีออกจากคุกของกรินเดลวัลด์ (จอห์นนี่ เด็ปป์) ซึ่งเมื่อได้รับการเฉลยคำตอบในช่วงท้ายหัวข้อนั้น จริงๆแล้วมันมีแรงกระตุ้นแล้วก็ผลพวงต่อบทภาพยนตร์ในภาคนี้ แถมยังมีความน่าดึงดูดใจ ว่าเพราะอะไรเขาก็เลยมีความคิดที่จะกำจัดผู้ที่ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์

ซึ่งก็คือมักเกิ้ล (มนุษย์ธรรมดา) แล้วก็เลือดสีโคลน (ผู้ที่มีเลือดผสมระหว่างบิดามดแม่มดและก็มนุษย์) โน่นก็เพราะว่าเขากำลังแลเห็นหายนะที่คืบคลานเข้ามาในลักษณะของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นฝีมือของมักเกิ้ล ถ้าเกิดหนังเลือกจะขยายความแนวทางดังที่กล่าวมาข้างต้น มันคงจะช่วยทำให้เรื่องราวในหนังภาคนี้ มีสาระสำคัญอันเป็นแก่นของเรื่องมากเพิ่มขึ้น