อยากรวยไหม มาดูความคิดของคนรวยกัน เค้าคิดกันยังไง คนจนเค้าทำยังไงถึงจน

   ประเทศไทยโดยส่วนมากแล้วคนจนจะมากกว่าคนรวยเป็นธรรมดาของประเทศกำลังพัฒนา แต่จะมีอีกคำหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยๆเช่นกันคือ "คนรวยมันก็รวยเอารวยเอา คนจนมันก็จนเอาจนเอา" ตรงนี้ผมขอจำแนกระหว่างคนรวยกับคนจนซะก่อน คนจนในคำนิยามของผมคือผู้ที่ใช้จ่ายมากกว่ากระแสเงินของตนเอง ส่วนคนรวยนั้นหมายถึงคนที่มีกระแสเงินมากกว่าค่าใช้จ่ายตัวเอง หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วกระแสเงินคืออะไรล่ะ? ตอบ กระแสเงินก็คือจำนวนเงินที่เข้าสู่กระเป๋าหรือบัญชีของเรา จะคิดเป็นรอบวัน รอบเดือน รอบปี ก็แล้วแต่จะคิดกัน หรือพูดภาษาชาวบ้านว่ารายรับนั่นเอง  คนจนก็จนเอาจนเอาของผมคืออะไร? ตอบสมมุตินายกระบี่ทองคำมีเงินอยู่1แสนบาท มีกระแสเงินคือ เงินเดือนค่าจ้างแบกหามเดือนละ6000บาท เนื่องจากกระบี่ทองคำต้องเลี้ยงลุกเลี้ยงเมียค่าใช้จ่ายเมีย เดือนละ4000บาท ค่าขนมลูกเดือนละ1000บาท ค่าน้ำค่าไฟในบ้าน 2000บาท ค่าใช้จ่ายตัวเองเดือนละ1000บาทเนื่องจากเดินไปทำงานและกินแกลบเป็นอาหาร ดังนั้นใน1เดือนกระบี่ทองคำจะมีรายจ่าย8000บาท ดังนั้นกระบี่ทองคำต้องนำเงินที่มีออกมาใช้เดือนละ2000บาท เวลไม่เกิน5ปีเงินบี่ทองคำก็จะหมด พอเดือนที่11นายกระบี่ทองคำจะทำอะไรได้นอกจากกู้หนี้นอกระบบเนื่องจากเครดิตไม่ดี ดังนั้นคนที่มีรายจ่ายมากกว่ากระแสเงินจึงได้จนเอาจนเอา คนรวยก็รวยเอารวยเอาของผมคือะไร? ตอบ สมมุติท่านชายมีเงิน10000บาทเท่ากระบี่ทองคำ มีกระแสเงินคือ เงินจากร้านลูกชิ้นปิ้งเดือนละ5000บาท เงินจากร้านขายไอติมอีกเดือนละ1000บาท รายจ่ายของท่านชายคือ ค่าน้ำค่าไฟเดือนละ1000บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก3000บาท ดังนั้นทุกๆ1เดือนท่านชายจะมีเงินออมเดือนละ2000บาท ถ้าเป็นเวลา5ปี ท่านชายจะมีเงินออมเป็น1.2แสนบาท ทั้งๆที่กระแสเงินก็เท่ากันอีกทั้งตอนเริ่มแรกกระบี่ทองคำมีเงินมากกว่าถึง9หมื่นบาท  นี่แหละครับคือเหตุผลว่าทำไมคนรวยถึงรวยได้รวยดี คนจนก็เช่นกันจนแล้วก็จนอีก แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่เกริ่นเรื่องให้ฟังก่อนเฉยๆตามสไตล์ผมต้องทดสอบเสียงตอบรับก่อนว่ามีผู้สนใจห รือไม่ เพราะผมยังไม่ได้พูดถึงแก่นแท้ที่ต้องการจะสื่อในบทความนี้เลยคือ "อย่าปล่อยให้เงินออมหลับไหล" ภาค เศรษฐยาจก เขียนเอง