633 สัปดาห์ ที่แล้ว - คนดู 395
  •  รูปที่ 1
รายละเอียด
  เนื่องจากกระแสความแรงของ Google ที่มีมาอย่างมากมาย รวมถึงการเปิดตัวบริการใหม่ๆ ของ Google ในแต่ละวันทำให้เราให้ความสนใจกับข่าวของ Google เป็นจำนวนมาก จนบางครั้ง ก็แอบเบื่อไปเลยเหมือนกันแต่กระแสของ Googleที่มาแรงสุดๆ ในเวลานี้ คงไม่เกิน Google+ ที่ออกมาสู้ศึกกับ Facebook อย่างแท้จริงทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ Google เพิ่งออกบริการใหม่ ที่ชื่อว่า Google+1 ทำให้หลายคนเกิดความสับสนกันว่า จริงๆแล้ว Google+ กับ Google+1 นั้นแตกต่างกันอย่างไร       ถึงแม้ว่าชื่อ Google+ (กูเกิลพลัส) กับ Google+1 (กูเกิลพลัสวัน) นั้นแตกต่างกันเพียงเลข 1 แค่ตัวเดียว แต่ทั้ง 2 ตัวนั้นไม่เหมือนกันเลย ถ้าจะคล้ายคงเป็นเพราะ  Google ทำบริการ 2 ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อกลบรัศมี Facebookและตีตลาดด้าน Social Media มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะขออธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆ ก่อนว่าเจ้า Google+1 นั้น มีลักษณะเหมือนกับปุ่ม Like ใน Facebook เพียงแต่แตกต่างกันที่ปุ่ม Google+1 นี้ สามารถนำไปติดในเว็บไซต์ของเราได้ทุกที่ แต่ปุ่ม Like นั้นจะมีขึ้นให้กดใน Facebook เท่านั้น      ด้วย Feature ที่มีมากมายของ Facebbok ที่ไม่ใช่มีแค่ปุ่ม Like เท่านั้นที่เป็นจุดแข็ง แต่ Facebook มาพร้อมกับการ Update Feature รายสัปดาห์ ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Google จะออกมาแค่ปุ่ม Like หรือ Google+1 ไม่เพียงพอแน่ Google จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า Google+ โดย Google+ นี้พยายามทำให้ Google+ เป็น Social Media Platform อย่างเช่น HI5, Facebook หรือ Friendster โดย Google+ นี้ประกอบไปด้วย Circle (แวดวง),Stream (แหล่งข้อมูล), Sparks (ประกายความสนใจ),Hangout (ปาร์ตี้เห็นหน้า),Huddle (แชตกันสนั่นเมือง) ฯลฯ      โดยแต่ละ Feature ที่ทำขึ้นมาใหม่นี้ ได้ออกแบบมาเพื่อลบจุดด้อยของ Facebook ที่มีปัญหา รวมถึงปัญหาเดิมของทาง Google เอง ที่เปิดให้คนใช้บริการ Search Engine ได้ฟรี แต่ไม่สามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนได้ว่า ใครเข้ามาค้นหา Keyword คำนี้ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และอายุเท่าไร ภายหลังบริการใหม่ๆ ของ Google นั้น จำเป็นต้องมี Log-in ด้วย Google Account ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ ที่เป็นเช่นนี้ เพื่อให้การนำข้อมูลต่างๆ ไปใช้ในทางการตลาดต่อไป รวมถึงการที่ผู้ต้องการลงโฆษณาใน Google Adwords ก็จะสามารถใช้งานได้มากขึ้นด้วย ส่วนรายละเอียดของ Google+ เป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้างนั้น ก็สามารถหาอ่านได้เพิ่มเติมจากนิตยสาร e-Commerce ด้วยค่ะ      เมื่อเราได้เข้าใจถึงความต่างของ 2 บริการนี้ได้แล้ว คราวนี้ก็มาดูว่า เมื่อเรานำไปใช้งาน จะช่วยก่อให้เกิดประโยชน์จาก Google+ และ Google+1 ได้อย่างไร      เมื่ออ่านข้อดีของการใช้ประโยชน์ในแง่ธุรกิจแล้ว หลายๆท่านคงอยากลองนำมันมาใช้กับธุรกิจของตัวเองแล้วใช่ไหมค่ะ สำหรับ Google+ นั้น ก็ง่ายมากคือ สมัคร Google Account(ซึ่งเริ่มต้นจากการสมัคร Gmail) ด้วยชื่อ-นามสกุลจริง เพื่อง่ายต่อการสมัครผ่าน แล้วเริ่มเข้าไปทดลองเล่นใน Feature ต่างๆ ของ Google+ ที่มีอยู่มากมาย ส่วนของ Google+1 นั้น สามารถเข้าไปได้ที่ www.google.com/webmasters/+1/button/index.html แล้ว Copy Code ไปติดตั้งที่เว็บไซต์ของเราได้ทันที      จากที่กล่าวถึงความแตกต่างของ Google และ Google+1 ทั้งหมดนั้น จริงๆแล้ว Google+1 ถือเป็น Subset หรือเป็นส่วนหนึ่งใน Project ของ Google+ นั่นเอง เพียงแต่แยกออกมาให้ Webmaster สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น แม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Google+ เลยก็ตาม      แต่ Google+ ไม่ได้มี Google+1 ใน Project นี้เท่านั้น ยังมี Google-14 (กูเกิลไมนัสวัน) สำหรับคนที่ใช้งาน Google+ เพื่อแสดงความชอบ หรือไม่พอใจต่อสิ่งๆ นั้นได้อีกด้วย และแน่นอนว่า เราคงไม่ต้องการ Google-1 ให้อยู่ในเว็บไซน์ของเราแน่นอน จริงไหม?GoogleGoogle+1การใช้งานการใช้งาน1. ได้เพื่อนเพิ่ม หาเพื่อนใหม่ได้ง่ายในเรื่องของการทำธุรกิจ     หรือคุยเล่น  1. ช่วยเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหาที่ดีขึ้น  2. มีข่าวสารใหม่ๆ ให้เราได้อัพเดตกันตลอดเวลา     เพราะข้อมูล  ทุกอย่างลอยอยู่ใน Cloud  2. ช่วยให้เราได้พัฒนาเนื้อหาหรือบทความภายในเว็บไซต์ให้ได้ตรงใจคนเข้าเยี่ยมชมได้ง่ายมากขึ้น  3. สามารถติดต่อสื่อสารในทางธุรกิจกับคนที่อยู่ใน Circle ที่เราตั้งไว้ได้ เช่น กลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเพื่อนด้วยการแชต  3. สามารถนำข้อมูลการ +1 มาใช้วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าและเป้าหมายได้  4. กระจายข่าวสารโปรโมชั่น ให้กลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน  4. ทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกถึงการที่เว็บฯ ที่มีความทันสมัย  5. ค้นหาข้อมูลการโพสต์เก่าๆ ได้ง่าย  5. แสดงความนิยมในผลการค้นหาว่ามีใครที่เราเป็นเพื่อนอยู่ ได้ให้ความสนใจกับเว็บฯ ของเราบ้าง6. ทุกข้อความที่เราโพสต์บน Google+ จะติดอันดับใน ผลการค้นหาของ Google ง่ายและเร็วขึ้น แม้เราไม่ได้อยู่ใน Google แต่ก็สามารถค้นหาข้อความนั้นเจอในผล การค้นหาของ Google+ 6. ช่วยให้ GoogleBot วิ่งเข้ามาเก็บข้อมูลของเราบ่อยมากขึ้น   credit http://shop.bigshopping.com