639 สัปดาห์ ที่แล้ว - คนดู 1,014
  •  รูปที่ 1
รายละเอียด
ถึงสัปดาห์สุดท้ายของ 2011 แล้ว ปีนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลง ในโลกของเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่หลายประการ ทั้งที่ดีและไม่ดี ซึ่งรวมถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจ Social Commerce จวบจนการเข้าซื้อ Ensogo ซึ่งเป็นธุรกิจแรกของไทยที่สามารถ Exit ในรูปแบบของ Dot-Com ได้สำเร็จ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และกระทั่งการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Google ในประเทศไทย ซึ่งอาจตามมาด้วยการเปิดตัวของ Dot-Com อื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาด Internet ในประเทศ มีน่าสนใจเพียงพอที่ยักษ์ใหญ่ต่างชาติพร้อมจะมาลงทุน และยังมีการเปิดตัวของ iPhone4S ซึ่งตามด้วยการเสียชีวิตของ Steve Jobs ผู้ซึ่งพลิกโฉม Apple จากบริษัทที่เกือบล้มละลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ด้วยนวัตกรรม iPods, iPhones, iPads ฯลฯ ซึ่งปฏิวัติเกือบทุกอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้อง และเกิดการลอกเลียนแบบจนเป็น Network Effects ที่ประมาณค่ามิได้   ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นวัตกรรมของ Apple และผู้ลอกเลียนแบบ ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อความคาดหวังและรูปแบบการใช้งานของเทคโนโลยี จนมีผลในวงกว้าง ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ มีตั้งแต่ เพลง หนัง เกม หนังสือ แมกกาซีน สื่อ Social Media ฯลฯ ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่อุปกรณ์ของ Apple และผู้ลอกเลียนแบบ สามารถเป็นศูนย์รวม Multimedia ที่อยู่ในมือผู้คนเป็นจำนวนมาก และสามารถเชื่อมต่อ Internet ได้ตลอดเวลา โดยผ่าน 3G, WiFi ฯลฯ ความสำเร็จนี้มิใช่เหตุบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนโครงสร้างธุรกิจและระบบ Ecosystem ที่ต้องอาศัยความมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและแม่นยำ และกระทั่งความเป็นผู้นำที่จะผลักดันเทคโนโลยีและองค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้    นวัตกรรมที่จะก้าวกระโดดครั้งต่อไป คือการที่ iPhones, iPads, iPods หรือกระทั่งอุปกรณ์ของคู่แข่ง สามารถทดแทนกระเป๋าสตางค์ได้ Near Field Communication (NFC) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกวางตัวให้ Launch พร้อมกับ iPhone4S แต่เนื่องจากความไม่พร้อมของตลาด จึงต้องถูกชะลอ และอาจ Launch พร้อมกับ iPhones รุ่นต่อไป    NFC ทำให้ Smartphones สามารถเป็นกระเป๋าสตางค์ในรูปแบบที่คล้าย Smartcards ได้ โดยเป็นเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารระยะสั้น ที่ทำให้เกิด Contactless Payments และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Point of Sale (POS)    ทั้งนี้มีการวิเคราะห์ว่า ภายในปี 2015 จะมี Smartphones ที่มี NFC 500 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยที่ 2012 จะเป็นปีแรกที่ Smartphones ที่มี NFC จะเริ่มเปิดตัวตัวอย่างกว้างขวาง โดยจะมี 80 ล้านเครื่องทั่วโลก    หากการก้าวกระโดดในครั้งนี้สำเร็จ การจ่ายเงินทั้งหมด ที่เคยผ่าน Credit Cards, Smart Cards หรือกระทั่งเงินสด จะถูกรวมเข้ากับอุปกรณ์ประเภท iPhones, iPads, iPods ฯลฯ และอาจเกิดการควบรวมระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม ในตัวอย่างที่สำคัญ ผู้ให้บริการหลักของสหรัฐ AT&T, T-Mobile และ Verizon ได้ร่วมกันสร้าง Joint Venture ที่เรียกว่า Isis เพื่อที่จะร่วมต่อสู้กับสถาบันการเงินในยุคต่อไปของธุรกิจการจ่ายเงินที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว    สำหรับประเทศไทย หรือประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นวัตกรรมนี้ กลับมีโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่ง ในประเทศที่พัฒนาแล้ว Credit Cards ได้มาเป็นระบบจ่ายเงินหลัก โดยมี Credit Cards มากกว่าจำนวนประชาการ ในขณะที่ประเทศที่กำลังพัฒนา หนึ่งครอบครัวอาจมี Credit Card แค่ใบเดียว ในขณะที่เกือบทุกคนมีโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ดังนั้น เมื่อ NFC กลายเป็น Function หลักของโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูป หรือการเข้าถึง Internet ผู้ใช้ NFC ในประเทศไทย จะมีมากกว่าผู้ใช้ Credit Cards หลายเท่า การปฏิวัติอุตสาหกรรมการจ่ายเงิน จึงอาจเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ    อย่างไรก็ดี ก้าวกระโดดครั้งในนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจยากกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมเพลงด้วย iPods เมื่อ 10 ปีก่อน เพราะอุตสาหกรรมการจ่ายเงินมีความสลับซับซ้อน มีโครงสร้างธุรกิจและระบบนิเวศที่มีความแข็งแกร่ง และมีความเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินซึ่งมีกฎระเบียบ กฎหมาย และยังเกี่ยวพันกับความมั่นคง    ที่สำคัญการผลักดันในครั้งนี้ กลับไม่มี Steve Jobs ที่จะวางแผนโครงสร้างธุรกิจและ Ecosystem ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและแม่นยำและผลักดันจนประสบความสำเร็จ ในที่สุดแล้ว ถึง NFC จะประสบความสำเร็จ แต่ Apple อาจมิได้เป็นผู้ชนะในรูปแบบของ iPods, iPhones และ iPads ที่ผ่านมา แต่สำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจในปี 2012 นั้น คงหนีไม่พ้น NFC และการจ่ายเงินแน่ แหล่งข่าว http://www.bangkokbiznews.com